ความสำเร็จ มักเลือกที่จะตอบแทนต่อทุกคน ที่มีความมุ่งมั่น ความพยายาม และไม่ย่อท้อต่อโชคชะตาชีวิต เป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจที่ยั่งยืนตลอดไป
“ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น”
ได้ยินคำสอน สำนวนที่สร้างแรงใจและกำลังใจเช่นนี้มาตั้งแต่เด็ก จนถึงบัดนี้ สำนวนนี้ก็ไม่เคยเก่าลงไปเลย แต่มีความหมาย และมีความจริง ที่ปรากฎให้เห็นมานักต่อนัก และความสำเร็จก็ไม่เลือกที่จะเป็นรางวัลให้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น แต่การประสบความสำเร็จเลือกที่จะตอบแทนบุคคลทุกคนที่มีความมุ่งมั่น มีความพยายามและไม่ย่อท้อต่อโชคชะตาชีวิต เป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจที่ยั่งยืนตลอดไป
นายวิริยะบัณฑิต คีรีธีระกุล ผู้สอบได้อันดับที่ 1 ผู้ช่วยผู้พิพากษารุ่นที่ 66 เป็นอีกผู้หนึ่ง ที่น่าชื่นชม และน่ายกย่อง จากเด็กดอยสู่เส้นทางสายตุลาการ สำหรับใครหลายๆ คน คงมองเห็นเป็นเรื่องยาก และอาจจะเกินความสามารถ ด้วยเหตุผลของโอกาส และต้นทุนทางสังคม แต่ … สำหรับคุณวิริยะบัณฑิต เขาสามารถทำได้ และทำได้ดี เป็นการตอกย้ำให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น และการจะประเมินความสามารถของใครสักคน ให้ดูที่ผลจากความพากเพียรนั้น ดังเช่น สำนวนที่ว่า “ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน”
บนเส้นทางของการเป็น “ม้ง” ซึ่งมีความหมายว่า “อิสระชน” ชาวม้งที่อยู่บนเทือกเขาสูง ผ่านความยากลำบากในการดิ้นรนด้วยสภาพแวดล้อมที่อาจจะไม่เอื้ออำนวยต่อการต่อยอดในองค์ความรู้ คุณวิริยะบัณฑิต ผู้ช่วยพิพากษา ผู้สอบได้อันดับ 1 ในรุ่นที่ 66 เกิดที่นี่ โตที่นี่ และมีความขยัน ใฝ่รู้ ตั้งใจเรียนหนังสือมาตั้งแต่เด็ก เขาเล่าว่าสมัยที่ไปโรงเรียนนั้น ที่โรงเรียนแห่งนั้นมีคุณครูเพียงแค่ 1 ท่าน ชุดนักเรียนไม่มี มีแต่ชุดชาวม้ง เดินเท้าเปล่าไปโรงเรียนทุกวัน ในแต่ละวัน การอ่านหนังสือ หรือ ทำการบ้าน ต้องพึ่งแสงไฟจากตะเกียง หรือไม่ก็พึ่งพาแสงจันทร์เท่านั้น เพราะไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง มีครั้งหนึ่งได้มีโอกาสชมทีวีที่บ้านคุณครู เนื่องจากบ้านคุณครูติดตั้งแผงโซล่าร์ เซลล์ และมีทีวีเครื่องเดียว ในหมู่บ้านของเขา
คุณวิริยะบัณฑิต ได้มีโอกาสชมภาพยนตร์จีนที่ใครๆ ต่างติดกันงอมแงม และล่าสุดได้มีการนำกลับมาฉายอีกครั้ง นั่นคือ เรื่อง เปาบุ้นจิ้น เป็นละครเรื่องที่คุณวิริยะบัณฑิตจดจำได้ดี แต่ด้วยความที่ยังเด็ก จึงยังไม่เข้าใจในการพิจารณา และพิพากษาคดีนัก แต่กลับชื่นชอบแมวหลวงจั่นเจา ผู้มีวิทยายุทธมากกว่า แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากนั้นไม่กี่สิบปีต่อมา เขากำลังจะได้ทำหน้าที่เดียวกับท่านเปาบุ้นจิ้น
คุณวิริยะบัณฑิต ร่ำเรียนหนังสือไปด้วย และช่วยคุณพ่อคุณแม่หาเงินเลี้ยงครอบครัวไปด้วย ในขณะที่ตนเองก็ไม่เคยคิดทิ้งการเรียน จนกระทั่งจบชั้นประถมศึกษา ได้มีโอกาสอันดีที่มีพระธรรมจาริกรูปหนึ่งได้แนะนำว่ามีโรงเรียนให้เรียนฟรีสำหรับผู้ด้อยโอกาส เขาและเพื่อนๆ ที่หมู่บ้าน จึงได้ตัดสินใจลงจากดอยเพื่อมาบวชเรียนต่อในระดับปริยัติธรรม มัธยมศึกษาตอนปลาย จนจบระดับปริญญาตรี ในคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง คุณวิริยะบัณฑิตใช้ระยะเวลาในการศึกษาเล่าเรียนเพียง 2 ปีครึ่งเท่านั้น
ผู้ช่วยผู้พิพากษาคนเก่งคนนี้ ยังมีข้อคิดดีๆ ที่มาแนะนำอีกด้วยว่า คนเราไม่ควรรอโอกาส หากเขามัวแต่รอเงิน / ค่าใช้จ่ายจากพ่อแม่ เขาคงมาไม่ถึงได้เช่น วันนี้ และหากเขาทิ้งโอกาสหลายๆ อย่างในการทำงานเพื่อให้มีรายได้เลี้ยงดูตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพ่อแม่ เขาก็คงไม่ประสบความสำเร็จเช่นวันนี้ เพราะความลำบากทำให้เขามีความมุ่งมั่น และไม่ย่อท้อ ความตั้งใจทำให้เขามึเป้าหมาย และทำได้อย่างประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัว และคนในหมู่บ้าน เขายังบอกอีกด้วยว่าน้องของเขาก็เป็นอีกคนในครอบครัวที่ประสบความสำเร็จ ปัจจุบันสอบเป็นข้าราชการตำรวจได้แล้วเช่นกัน
มาถึงตรงนี้แล้ว ตระหนักกันแล้วหรือไม่ว่า ความสำเร็จของคนเรา มาจากความพากเพียรล้วนๆ เป็นการแข่งขันกับตนเอง ไม่ใช่แข่งกับผู้อื่น คุณวิริยะบัณฑิต คือ ตัวอย่างบุคคลที่เก่งและน่ายกย่อง ควรค่าแก่การเป็นแบบอย่างที่ดีต่อเยาวชน เรื่องราวดีๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจและเป้นตัวอย่างที่ดีให้กับใครอีกหลายๆ คน จึงเห็นสมควรนำมาเผยแพร่ และขอชื่นชมและยกย่องมา ณ ที่นี้
Reference:
http://www.iprd.coj.go.th/
ต้นฉบับบทสัมภาษณ์พิเศษ
http://www.iprd.coj.go.th/doc/data/iprd/iprd_1467351775.pdf
Cultures of Fermented
by Scoby Doit
Related