9Nomad, miscellaneous, Thai Book Review แนะนำหนังสือ, Uncategorized

น้ำส้มสายชูหมักจากสับปะรด มีโปรไบโอติก เพื่อสุขภาพ ที่คุณอาจยังไม่รู้จัก

น้ำส้มสายชูหมักจากสับปะรด จากธรรมชาติ โปรไบโอติก เพื่อสุขภาพ

   น้ำส้มสายชูหมักสับปะรด เป็นมากกว่าแค่ความเปรี้ยว แต่คือสุขภาพดีที่คุณดื่มได้ คือ ผลผลิตจากกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ตามธรรมชาติ คือ โปรไบโอติก ที่สร้างประโยชน์ให้กับสุขภาพของเราอย่างแท้จริง !!

 ถ้าพูดถึง  น้ำส้มสายชู หลายคนอาจจะนึกถึงแค่ความเปรี้ยวจี๊ด ที่เอาไว้ทำอาหาร แต่คุณรู้ไหมว่า โลกของ น้ำส้มสายชูหมักธรรมชาติ มันกว้าง และน่าสนใจกว่านั้นเยอะเลยครับ และวันนี้ผมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ หนึ่งในพระเอกของเรา นั่นก็คือ น้ำส้มสายชูหมักสับปะรด หรือ Pineapple Vinegar ที่ไม่เพียงแค่รสชาติดี แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพแบบจัดเต็มอีกด้วย

“น้ำส้มสายชูหมัก” หรือที่ใครบางคนเรียกว่า Vinegar from Fermentation

เป็นผลิตผลจากการนำผลไม้ หรือวัตถุดิบ ที่มีน้ำตาลธรรมชาติ มาผ่านกระบวนการหมัก โดยใช้ยีสต์และแบคทีเรียที่ดี (Acetobacter) ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ มาเปลี่ยนน้ำตาลในสับปะรดให้กลายเป็น แอลกอฮอล์ แล้วเปลี่ยนต่อไปเป็นกรดอะซิติก (Acetic Acid) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ของน้ำส้มสายชูเลยครับ ….

กระบวนการนี้จะต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก  และต้องมีความพิถีพิถัน ทำให้ได้น้ำส้มสายชูที่มีรสชาติเฉพาะตัว หอมกลิ่นสับปะรด จนได้ออกมาเป็นน้ำส้มสายชู ที่อุดมไปด้วยกรดอินทรีย์ วิตามิน เอนไซม์ และ โปรไบโอติก ซึ่งดีต่อระบบย่อยอาหารและสุขภาพโดยรวม

ในบรรดาผลไม้หลายชนิดที่นิยมใช้หมัก  Cider vinegar  “สับปะรด” ถือเป็นหนึ่งในวัตถุดิบยอดนิยม เพราะสับปะรดมีน้ำตาลธรรมชาติสูง มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และยังอุดมด้วย เอนไซม์โบรมีเลน (Bromelain) ซึ่งมีงานวิจัยรองรับว่า ช่วยเรื่องการย่อยโปรตีน และการลดการอักเสบได้เป็นอย่างดี …

น้ำส้มสายชูหมัก จากสับปะรด

ประโยชน์ของน้ำส้มสายชูหมักสับปะรด  ที่เราต้องรู้ …

     มันไม่ใช่แค่ความเปรี้ยวที่เอาไว้ปรุงอาหารนะครับ แต่เจ้า  Pineapple Vinegar นี้มีประโยชน์มากมายจนคุณอาจจะคาดไม่ถึงเลยล่ะครับ

  • ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร  น้ำส้มสายชูหมักสับปะรด   มีโปรไบโอติก ที่เกิดจากการหมัก ทำให้ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้  รวมถึงมีเอนไซม์ โบรมีเลน จากสับปะรด ซึงมันจะช่วยย่อยโปรตีน ลดอาการแน่นท้อง อาหารไม่ย่อย และ มีกรดอะซิติก (Acetic acid) ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร อีกด้วย
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด  มีการศึกษางานวิจัยหลายชิ้น เกี่ยวกับน้ำส้มสายชูหมัก พบว่า การบริโภคน้ำส้มสายชูหมัก ก่อนมื้ออาหารที่ มีคาร์โบไฮเดรตสูงๆ สามารถช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลไม่พุ่งสูงปรี๊ดหลังกินข้าว เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพและควบคุมระดับน้ำตาลครับ  …..  กล่าวคือ กรดอะซิติก สามารถช่วยชะลอการย่อย และการดูดซึมแป้ง ลดการพุ่งของระดับน้ำตาลหลังรับประทานอาหารได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ “ควบคุมน้ำหนัก” หรือดูแลระดับน้ำตาล
  • ช่วยเรื่องการลดน้ำหนัก ??  อ่านแล้ว อาจจะงง ๆ ใช่ไหมครับ ?  แต่ กรดอะซิติก  และ โปรไบโอติก ที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้  มีส่วนช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานและไขมันในร่างกาย  และมันยังช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ทำให้เราไม่หิวบ่อย กินน้อยลงโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นผลดีต่อการลดน้ำหนักในระยะยาวครับ
  • เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ   ใครๆ ก็รู้ว่า…  สับปะรด ขึ้นชื่อ เรื่องวิตามิน และสารอาหารอยู่แล้ว เมื่อนำมาหมัก สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ก็ยังคงอยู่ และช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้ครับ   การเจือจางน้ำส้มสายชู แล้วใช้เป็นน้ำยาบ้วนปาก สามารถลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียได้  นอกจากนี้ สารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยให้ผิวพรรณสดใส กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว …   หลายคนเริ่มสงสัยว่า แล้วจะดื่ม หรือใช้ ยังไง ให้ได้ประโยชน์สูงสุด ?
ผมแนะนำแบบนี้ครับ  ….

นอกเหนือจาก การใช้หมักเนื้อสัตว์ให้นุ่มขึ้น หรือ นำมาทำเป็นน้ำสลัดชั้นยอด เพิ่มรสเปรี้ยวสดชื่น

ประโยชน์  น้ำส้มสายชูหมัก
ที่นอกเหนือจาก  การใช้หมักเนื้อสัตว์ให้นุ่มขึ้น หรือ นำมาทำเป็นน้ำสลัดชั้นยอด เพิ่มรสเปรี้ยวสดชื่น  น้ำส้มสายชูหมัก สับปะรด ยังเป็นเครื่องดื่มสุขภาพ และใช้ดูแลร่างกายได้อีกด้วย

1  ดื่มเพื่อสุขภาพ   ผสมน้ำส้มสายชูหมักสับปะรด  1-2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำเปล่า 1 แก้ว (250 มล.) หรือจะเติมน้ำผึ้งเล็กน้อย เพื่อเพิ่มรสชาติก็ได้ครับ  ควรดื่มก่อนมื้ออาหารหลักประมาณ 15-30 นาที เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด หรือจะดื่มหลังอาหารก็ได้เพื่อช่วยสำหรับการย่อยอาหาร …
2  ใช้ดูแลร่างกาย    ใช้ผสมกับน้ำอุ่นแล้วแช่เท้า ลดกลิ่นอับและเชื้อรา  หรือใช้หมักผม ช่วยลดความมันและเพิ่มความเงางาม (ต้องเจือจางเสมอ)
***  ข้อควรระวัง:  น้ำส้มสายชูหมักมีความเป็นกรดสูง ดังนั้น จึงไม่ควรดื่มน้ำส้มสายชูหมักแบบเพียวๆ โดยไม่ผสมน้ำนะครับ   เพราะความเป็นกรดสูงอาจทำลายเคลือบฟันและระคายเคืองหลอดอาหาร และกระเพาะอาหารได้

วิธีการเก็บรักษา
น้ำส้มสายชูหมักธรรมชาติ

      น้ำส้มสายชูหมักธรรมชาติ  สามารถเก็บได้ยาวนานเป็นปีๆ เลยครับ  หากมีวิธีการเก็บที่ถูกต้อง โดยรสชาติ และความหอม จะเข้มข้นขึ้นตามระยะเวลาหมัก

  • ควรเก็บในอุณหภูมิห้อง ที่ที่อุณหภูมิคงที่  และไม่โดนแสงแดดโดยตรง  หากต้องการแช่เย็นก็สามารถทำได้ครับ ไม่มีข้อห้ามหรือทำให้คุณประโยชน์ลดลง แต่การแช่เย็นก็จะช่วยให้อายุยืนยาวมากขึ้น
  • หลังใช้งานทุกครั้งควรปิดฝาขวดให้แน่น เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไปทำปฏิกิริยาและป้องกันสิ่งสกปรกครับ
  • ในบางครับ คุณอาจสังเกต เห็น “Mother” คือเส้นใยบางๆ ที่มักจะลอยอยู่หรือตกตะกอน นั่น ไม่ใช่เรื่องผิดปกติครับ แต่เป็นสัญญาณว่า  น้ำส้มสายชูของเรา  ยังคงมีชีวิต และยังทำงานอยู่ ซึ่งมีแบคทีเรียดีอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์

เจาะลึก ‘Mother’ และ กรดอะซิติก
หัวใจของน้ำส้มสายชูหมักสับปะรด

เวลาที่คุณเปิดขวดน้ำส้มสายชูหมักธรรมชาติ แล้วพบว่า จะมีเส้นใยขุ่น ๆ ลอยอยู่  นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า “Mother of Vinegar” หรือ แม่พันธุ์น้ำส้มสายชู  มันไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม หรือของเสียนะครับ แต่มันคือกลุ่มของแบคทีเรียที่ดี (Acetobacter) และเซลล์ยีสต์ที่รวมตัวกันเป็นใยคล้ายวุ้น นี่แหละครับ  คือหัวใจสำคัญที่ทำให้น้ำส้มสายชูมีชีวิตและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง

 Mother ไม่ใช่สิ่งสกปรก แต่มันคือเครื่องบ่งชี้ว่า  น้ำส้มสายชู ขวดนั้นเป็น น้ำส้มสายชูหมักแท้ ๆ ไม่ใช่น้ำส้มสายชูสังเคราะห์ ที่ผลิตจากกรดอะซิติกเคมีในโรงงาน!!!

 

ความแตกต่างระหว่าง น้ำส้มสายชูหมักแบบธรรมชาติ และแบบโรงงาน

โดยประโยชน์ของ Mother คือ  อุดมไปด้วยโปรไบโอติก ที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและสมดุลลำไส้ หรือที่เรียกว่า ไมโครไบโอม (Microbiome) ซึ่งมีผลต่อสุขภาพองค์รวมของเราอย่างมาก ทั้งเรื่องการย่อยอาหาร, ระบบภูมิคุ้มกัน, ไปจนถึงการทำงานของสมองเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมี เอนไซม์ธรรมชาติ และ มีสารโพลีแซ็กคาไรด์และสารต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากการหมัก

สำหรับพระเอกตัวจริง ที่ทำงานเบื้องหลัง คือ Acetic Acid

กรดอะซิติก เป็นสารประกอบอินทรีย์หลักที่เกิดขึ้นจากกระบวนการหมัก ที่มีกลิ่นฉุนและรสเปรี้ยว โดยแบคทีเรีย Acetobacter จะเปลี่ยนเอทานอล (แอลกอฮอล์ที่ได้จากการหมักน้ำตาลในสับปะรด) ให้กลายเป็นกรดอะซิติก

ซึ่งมีงานวิจัยสมัยใหม่ พบว่าเจ้ากรดตัวนี้มีศักยภาพในการดูแลสุขภาพที่น่าทึ่งมาก  เรามาดูกันครับ ว่ามีอะไรบ้าง …

  • กรดอะซิติก ช่วย ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด  โดยมี กลไกการทำงานคือ มันจะเข้าไปยับยั้งเอนไซม์  ที่ทำหน้าที่ย่อยแป้งและน้ำตาล ทำให้การดูดซึมกลูโคส เข้าสู่กระแสเลือดช้าลง ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งสูงหลังมื้ออาหาร โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 การบริโภคน้ำส้มสายชูหมักเป็นประจำ จึงช่วยเพิ่มความไวของเซลล์ต่ออินซูลิน (Insulin Sensitivity) ได้ด้วยครับ
  • ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน  จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ชี้ว่า  กรดอะซิติกมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ AMPK (AMP-activated protein kinase) ในร่างกาย ซึ่งเอนไซม์ตัวนี้  ทำหน้าที่สำคัญในการเผาผลาญไขมันสะสมและสร้างพลังงาน ทำให้ร่างกายสามารถใช้พลังงานจากไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักนั่นเอง
  • ฆ่าเชื้อและลดการอักเสบ : กรดอะซิติกมีฤทธิ์ในการต้านแบคทีเรียและเชื้อราได้ดีเยี่ยม นี่เอง จึงเป็นเหตุผลว่า  ทำไมคนโบราณถึงนิยมใช้น้ำส้มสายชูเป็นสารกันบูด และทำความสะอาด นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่พบว่า  การบริโภคกรดอะซิติก ยังช่วยลดการอักเสบในร่างกายได้อีกด้วยครับ …

  เป็นที่ทราบกันดีว่า การหมักน้ำส้มสายชู สามารถใช้ผลไม้ชนิดต่างๆได้  ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึง สับปะรด  …. แต่ถ้าหากว่า คุณสนใจ น้ำส้มสายชูหมักธรรมชาติ แบบโฮมเมดแท้ๆ  สำหรับการใช้ผลไม้อื่นๆ คุณสามารถคลิ๊กเข้าชมและอ่านรายละเอียด และหาซื้อได้ทาง  Shopeeครับ  คุณสามารถคลิ๊กได้จากรูป   Logo  Shopeeได้เลยครับ  ^^      

การหมักจาก สับปะรด ทำให้เรายังคงได้รับประโยชน์จากสารอาหารที่สำคัญในผลไม้ด้วยครับ เช่น

  • วิตามินซี ที่แม้ว่าบางส่วนจะสลายไประหว่างกระบวนการหมัก แต่วิตามินซี ที่เหลืออยู่ก็ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง
  • โพแทสเซียมและแมกนีเซียม แร่ธาตุเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในการรักษาสมดุลของร่างกาย และช่วยให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำงานได้อย่างปกติ
  • เอนไซม์ Bromelain เอนไซม์ที่พบในสับปะรดมีส่วนช่วยในการย่อยโปรตีน และมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ซึ่งแม้ในน้ำส้มสายชูหมักจะมีปริมาณไม่มากเท่าผลไม้สด แต่ก็ยังมีประโยชน์ซ่อนอยู่ครับ

 

เรื่องต่อไปนี้ สำคัญที่สุด !!!!   
ขวดหรือโหลบรรจุ น้ำส้มสายชูหมัก ควรเป็นวัสดุแก้ว นะครับ!!!

 ทำไมน้ำส้มสายชูหมักธรรมชาติ จะต้องบรรจุในขวดแก้วเท่านั้น ? 

    มันไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม หรือดูพรีเมียมเท่านั้น แต่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญรองรับอยู่ครับ มาดูกันว่า  ทำไมขวดแก้วถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการบรรจุน้ำส้มสายชูหมัก

เนื่องจาก น้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรด (Acetic Acid) ซึ่งสามารถทำปฏิกิริยากับวัสดุบางชนิดได้ โดยเฉพาะพลาสติกเกรดต่ำ หรือโลหะบางประเภท หากบรรจุน้ำส้มสายชู ในภาชนะที่ไม่เหมาะสม กรดดังกล่าว อาจจะไปกัดกร่อนสารเคมีในวัสดุนั้นๆ ให้ปนเปื้อนลงในผลิตภัณฑ์ได้ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ …

    แก้ว เป็นวัสดุที่เฉื่อย (Inert) หรือไม่ทำปฏิกิริยาทางเคมีกับสารใดๆ ได้ง่าย ทำให้มั่นใจได้ว่า  น้ำส้มสายชูที่บรรจุในขวดแก้วจะคงความบริสุทธิ์ ปราศจากสารปนเปื้อน และยังรักษาคุณภาพ รสชาติ และกลิ่นดั้งเดิมของผลิตภัณฑ์ไว้ได้อย่างสมบูรณ์

ดังนั้น  การเลือกใช้ขวดแก้วไม่ได้เป็นแค่เรื่องของความสวยงาม แต่เป็นเรื่องของ ความปลอดภัย คุณภาพ และความยั่งยืน ซึ่งเป็นคุณค่าที่ผู้ผลิตน้ำส้มสายชูหมักธรรมชาติให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกนั่นเองครับ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. Johnston, C. S., & Gaas, C. A. (2006). Vinegar: medicinal uses and antiglycemic effect. MedGenMed: Medscape general medicine, 8(2), 61.
  2. Shishehbor, F., Mansoori, A., Sarkaki, A., Jalali, M. T., & Latifi, S. M. (2008). Apple cider vinegar attenuates lipid profile in normal and diabetic rats. Pakistan Journal of Biological Sciences, 11(23), 2634–2638.
  3. Budak, N. H., Aykin, E., Seydim, A. C., Greene, A. K., & Guzel-Seydim, Z. B. (2014). Functional properties of vinegar. Journal of Food Science, 79(5), R757–R764.
  4. Ordonez, A. A. L., Gomez, J. D., Vattuone, M. A., & Isla, M. I. (2006). Antioxidant activities of Sechium edule (Jacq.) Swartz extracts. Food Chemistry, 97(3), 452–458. (เกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระในพืชตระกูลฟัก/ผลไม้ซึ่งสัมพันธ์กับคุณสมบัติการหมัก)
  5. Hale, L. P., Greer, P. K., & Trinh, C. T. (2005). Bromelain treatment decreases neutrophil migration to sites of inflammation. Clinical Immunology, 116(2), 135–142. (เกี่ยวกับเอนไซม์โบรมีเลนจากสับปะรดที่ช่วยลดการอักเสบ)
  6. Ali, M. R., Hossain, M. A., & Saha, S. (2011). Antimicrobial activity of vinegar and its effectiveness in preserving the shelf life of fruits and vegetables. Asian Journal of Biological Sciences, 4(1), 23–28.


Cultures of Fermented 
by Scoby Doit
Previous ArticleNext Article