หากพูดถึง น้ำสลัด หลายคนอาจนึกถึงครีมข้นๆ สีขาวที่คุ้นเคย แต่แท้จริงแล้วมีน้ำสลัดอีกประเภทหนึ่งที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยรสชาติอันซับซ้อน นั่นก็คือ วินิเกรต (Vinaigrette) ซึ่งเป็นมากกว่าแค่การราดบนผักสลัด แต่มันคือการผสมผสานระหว่างความเป็นกรดและความมันที่ลงตัว เป็นรากฐานของน้ำสลัดทั่วโลก และเป็นหัวใจสำคัญของอาหารเมดิเตอร์เรเนียน
สำหรับผู้ที่รักสุขภาพ การรับประทานสลัดนั้น ถือเป็นทางเลือกในการทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ แต่สลัดคงจะไม่อร่อยครบรส หากขาดไปซึ่งองค์ประกอบหลักสำคัญ นั่นก็คือ “น้ำสลัด” ที่จะช่วยส่งเสริมรสชาติให้สลัดของเราอร่อยมากยิ่งขึ้น แต่การเลือกน้ำสลัด นั้น หลายคนอาจจะคิดไม่ตก ว่า จะต้องเลือกน้ำสลัดแบบไหนกันนะ …ถึงจะอร่อยถูกปาก และดีต่อสุขภาพของเรา
วันนี้ เราจะมาแนะนำ น้ำสลับอีกรูปแบบหนึ่งที่แตกต่างจากที่หลายๆท่านคุ้นเคยกัน นั่นก็คือ วินิเกรต (Vinaigrette)
History of Vinaigrette
ประวัติความเป็นมาของ น้ำสลัดวินิเกรต
Vinaigrette น้ำสลัดที่เรียบง่ายแต่มีเรื่องเล่า
ต้นกำเนิดของ Vinaigrette (วินิเกรต) ที่ทำมาจากน้ำมันมะกอกและน้ำส้มสายชู นั้น สามารถเล่าย้อนไปได้หลายศตวรรษ ซึ่งมีมาตั้งแต่ สมัยอียิปต์โบราณ และกรีกโรมัน โดยชาวโรมัน มักใช้ น้ำส้มสายชูเป็นส่วนผสมในซอสและน้ำจิ้มต่างๆ รวมถึง ใช้น้ำส้มสายชูเป็นสารกันบูดสำหรับอาหาร แต่คำว่า “vinaigrette” เพิ่งจะมาปรากฏในศตวรรษที่ 17-18 โดยมาจากภาษาฝรั่งเศส ว่า “vinaigre” ที่แปลว่า “น้ำส้มสายชู” และ “-ette” ที่เป็นคำต่อท้าย แสดงถึงขนาดเล็ก ทำให้วินิเกรตมีความหมายตรงตัว ว่า “น้ำส้มสายชูเล็กๆ” หรือซอสที่ทำจากน้ำส้มสายชูเป็นหลัก นั่นเอง…
ในยุคแรกๆ วินิเกรต (Vinaigrette) เป็นเพียงการผสมระหว่างน้ำมัน และน้ำส้มสายชูเพื่อใช้คลุกผักสด แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนก็เริ่มเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ เช่น มัสตาร์ด, สมุนไพร , กระเทียม หรือเครื่องเทศต่างๆ เพื่อเพิ่มมิติของรสชาติ ทำให้วินิเกรต มีความหลากหลายมากขึ้น และกลายเป็นน้ำสลัดสากลที่รู้จักกันทั่วโลก
**** คำว่า Vinaigrette ปรากฏขึ้นครั้งแรกในหนังสือเกี่ยวกับสลัดของ John Evelyn ที่ชื่อว่า Acetaria ในปี 1699 โดยแต่เดิมชื่อ Vinaigrette เป็นสูตรสำหรับน้ำสลัดแตงกวา
น้ำสลัด Vinaigrette ทำมาจาก น้ำมันจากพืชและน้ำส้มสายชู เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้ ต่างก็ขึ้นชื่อว่า มีแคลอรี่และไขมันอิ่มตัวต่ำมาก จึงมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆ ด้าน โดยน้ำมันจากพืช สามารถใช้ชนิดใดก็ได้ เช่น น้ำมันมะกอก, น้ำมันอะโวคาโด หรือน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ ส่วน น้ำส้มสายชู ก็สามารถใช้ชนิดใดก็ได้ เช่น บัลซามิก, ไวน์แดง หรือน้ำส้มสายหมักธรรมชาติ จากผลไม้ต่างๆ นอกจากนี้เรายังสามารถเพิ่มสมุนไพร เครื่องเทศ และเครื่องปรุงรสอื่นๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ และคุณประโยชน์ ให้กับน้ำสลัดเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย เช่น ใบโหระพา และผักชีฝรั่ง เป็นต้น

Benefit of Vinaigrette
ประโยชน์ของน้ำสลัดวินิเกรต
Vinaigrette วิริเกรต เป็นน้ำสลัดที่สามารถใช้ได้กับสลัดผัก และแม้แต่ เนื้อสัตว์ได้หลากหลายชนิด ซึ่งเข้ากันได้ดีกับรสชาติที่หลากหลาย ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับอาหารหลายประเภท ถ้าหากเป็นเนื้อสัตว์ จะนิยมทานคู่กับสเต๊ก … นอกจากนี้ ยังดีต่อสุขภาพ เนื่องจากน้ำมัน และน้ำส้มสายชูหมักธรรมชาติ ที่ใช้ในน้ำสลัดนี้ ยังมีแคลอรีต่ำ และมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์สูง

ทว่า คุณประโยชน์จะมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับส่วนผสมที่เราเลือกใช้ เช่น น้ำส้มสายชูหมักธรรมชาติ ผสมน้ำมันมะกอกจะช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ และหลอดเลือด, น้ำส้มสายชูจากมะขามป้อม มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบ ควบคุมระดับน้ำตาลและเมแทบอลิซึม , น้ำส้มสายชูจากสับปะรด มีคุณสมบัติ ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร , น้ำส้มสายชูจากแครนเบอร์รี่ ช่วยในการดีท็อกซ์และชะลอวัย ส่งเสริมการทำงานของตับในการขับสารพิษออกจากร่างกาย และสารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์
สรุปประโยชน์ของวินิเกรต
ดีต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด
วินิเกรตไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย
- ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร: การใช้น้ำส้มสายชูหมักจากธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำส้มสายชูหมักธรรมชาติ จากผลไม้ชนิดต่างๆ ที่มี “แม่น้ำส้มสายชู” ( With The Mother) ซึ่ งอุดมไปด้วยแบคทีเรียและเอนไซม์ที่มีประโยชน์ต่อลำไส้
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่า การบริโภคน้ำส้มสายชูก่อนอาหารสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหารได้
- ดีต่อหัวใจ : น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) และเพิ่มคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL)
- ดูดซึมวิตามินได้ดีขึ้น: การรับประทานสลัดที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น วิตามิน A, D, E และ K จากผักได้ดียิ่งขึ้น

น้ำสลัด Vinaigrette
สามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน
เราสามารถปรับเปลี่ยน และออกแบบรสชาติได้เองตามใจชอบ เพื่อสร้างน้ำสลัดที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบเฉพาะตัว
สำหรับใครอยากลองทำน้ำสลัด Vinaigrette วันนี้ เรามีสูตรการทำ น้ำสลัด Vinaigrette ในหลายๆสูตร โดยปรับแต่งไปตาม น้ำส้มสายชูหมักธรรมชาติ
แนะนำสูตรวินิเกรตฉบับโฮมเมด
การทำ น้ำสลัด วินิเกรต เองที่บ้านเป็นเรื่องง่ายและสนุก คุณสามารถปรับเปลี่ยนส่วนผสมได้ตามใจชอบ และนี่คือ 3 สูตรพื้นฐาน และ 3 สูตรพิเศษ เพิ่มความแปลกใหม่ด้วย สูตร วินิเกรตจากผลไม้ไทย และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
- สูตรวินิเกรตคลาสสิก (Classic Vinaigrette) นี่คือสูตรพื้นฐานที่ใช้ได้กับสลัดทุกชนิด
- ส่วนผสม:
- น้ำส้มสายชูหมักจากไวน์แดง (Red Wine Vinegar) 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ (Extra Virgin Olive Oil) 6 ช้อนโต๊ะ
- มัสตาร์ด Dijon 1 ช้อนชา
- เกลือและพริกไทยดำบดสดตามชอบ
- วิธีทำ:
- ในชามใบเล็ก ผสมน้ำส้มสายชู, มัสตาร์ด, เกลือ และพริกไทยเข้าด้วยกัน
- ค่อยๆ เทน้ำมันมะกอกลงไปช้าๆ พร้อมกับคนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว หรือจะใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในขวดที่มีฝาปิดแล้วเขย่าให้เข้ากันก็ได้
- สูตรวินิเกรตบัลซามิก (Balsamic Vinaigrette) ให้รสชาติที่หวานและเข้มข้น เหมาะกับสลัดผักใบเขียวและมะเขือเทศ
- ส่วนผสม:
- น้ำส้มสายชูบัลซามิก (Balsamic Vinegar) 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ (Extra Virgin Olive Oil) 6 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับละเอียด 1 กลีบ
- เกลือและพริกไทยดำตามชอบ
- น้ำผึ้งหรือเมเปิลไซรัป 1 ช้อนชา (ถ้าชอบหวาน)
- วิธีทำ:
- ผสมน้ำส้มสายชูบัลซามิก กระเทียม น้ำผึ้ง เกลือ และพริกไทยเข้าด้วยกัน
- ค่อยๆ ใส่น้ำมันมะกอกลงไปทีละน้อยแล้วคนหรือเขย่าให้เข้ากัน
- สูตรวินิเกรตสไตล์เอเชีย (Asian-Inspired Vinaigrette) ให้รสชาติแบบตะวันออกที่สดชื่นและมีมิติ
- ส่วนผสม:
- น้ำส้มสายชูข้าว (Rice Vinegar) 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันงา (Sesame Oil) 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช หรือ น้ำมันเมล็ดองุ่น 5 ช้อนโต๊ะ
- ซอสถั่วเหลืองหรือโชยุ 1 ช้อนโต๊ะ
- ขิงขูดหรือสับละเอียด 1 ช้อนชา
- น้ำผึ้งหรือน้ำตาล 1 ช้อนชา
- วิธีทำ:
- ผสมน้ำส้มสายชูข้าว ซอสถั่วเหลือง ขิง และน้ำผึ้งเข้าด้วยกัน
- ค่อยๆ เทน้ำมันงาและน้ำมันพืชลงไปพร้อมกับคนให้เข้ากัน
4 สูตรวินิเกรตจากน้ำส้มสายชูมะละกอ
น้ำส้มสายชูหมักจากมะละกอจะให้รสชาติที่นุ่มนวลและมีกลิ่นหอมหวานแบบผลไม้เมืองร้อน เหมาะสำหรับสลัดที่มีรสชาติเบาๆ หรือสลัดผลไม้
- ส่วนผสม:
- น้ำส้มสายชูหมักจากมะละกอ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันเมล็ดทานตะวัน หรือน้ำมันรำข้าว 6 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่นเล็กน้อย
- พริกไทยดำบดสด ตามชอบ
- น้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมเมเปิล 1 ช้อนชา (ถ้าต้องการเพิ่มความหวาน)
- วิธีทำ:
- ในชามผสมขนาดเล็ก ผสมน้ำส้มสายชูมะละกอ เกลือ และพริกไทย
- ค่อยๆ เทน้ำมันลงไปช้าๆ พร้อมกับคนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว หรือเขย่าในขวดที่มีฝาปิด
น้ำส้มสายชูหมักจากมะขามป้อม มีรสเปรี้ยวอมฝาดอันเป็นเอกลักษณ์ และอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ สูตรนี้จึงเป็นวินิเกรตที่ให้ทั้งรสชาติและคุณประโยชน์
- ส่วนผสม:
- น้ำส้มสายชูหมักจากมะขามป้อม 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ 6 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ (เพื่อลดความฝาดและเพิ่มความกลมกล่อม)
- เกลือเล็กน้อย
- วิธีทำ:
- ผสมน้ำส้มสายชูมะขามป้อมและน้ำผึ้งเข้าด้วยกันในชามจนน้ำผึ้งละลาย
- ค่อยๆ เทน้ำมันมะกอกลงไปพร้อมกับคนหรือเขย่าให้เข้ากันดี
- ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยตามชอบ
- สูตรวินิเกรตจากน้ำส้มสายชูแครนเบอร์รี่
น้ำส้มสายชูแครนเบอร์รี่ จะให้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ที่สดชื่น และมีสีสันสวยงาม เหมาะสำหรับสลัดผักใบเขียว สลัดอกไก่ หรือสลัดที่มีส่วนผสมของชีส
- ส่วนผสม:
- น้ำส้มสายชูหมักจากแครนเบอร์รี่ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันเมล็ดองุ่น 6 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเชื่อมเมเปิล 1-2 ช้อนชา (เพื่อเพิ่มความหวานให้สมดุลกับความเปรี้ยว)
- หอมแดงสับละเอียด 1 ช้อนชา (เพิ่มกลิ่นและรสชาติ)
- เกลือและพริกไทยดำบดสดตามชอบ
- วิธีทำ:
- ในชามผสม ผสมน้ำส้มสายชูแครนเบอร์รี่ น้ำเชื่อมเมเปิล และหอมแดงสับ
- ค่อยๆ เทน้ำมันลงไปพร้อมกับตีให้เข้ากันจนส่วนผสมทั้งหมดเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
- ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย
การเพิ่มสูตรเหล่านี้จะช่วยให้คุณสนุกกับการทำวินิเกรตได้มากขึ้น และได้น้ำสลัดที่มีรสชาติแปลกใหม่ ไม่จำเจอีกต่อไปครับ
การทำวินิเกรตนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การได้ลองทำด้วยตัวเองจะทำให้คุณเข้าใจถึงความสมดุลของรสชาติและได้ค้นพบวินิเกรตในแบบที่คุณชื่นชอบมากที่สุด และ การเพิ่มสูตรพิเศาหล่านี้ จะช่วยให้คุณสนุกกับการทำวินิเกรตได้มากขึ้น และได้น้ำสลัดที่มีรสชาติแปลกใหม่ ไม่จำเจอีกต่อไปครับ
Vinaigrette เป็นตัวอย่างที่ดีของอาหารที่เรียบง่ายแต่มีความลึกซึ้ง — เลือกน้ำส้มสายชูหมักจากธรรมชาติ ให้เหมาะกับจุดประสงค์ คุณสามารถใช้ น้ำส้มสายชูหมักจากมะละกอ มะขามป้อม แครนเบอร์รี่ หรือ สับปะรด และ แอปเปิล เพื่อให้ได้อัตลักษณ์ท้องถิ่น/ฤดูกาล และอาจได้รับสารพฤกษเคมีประโยชน์จากผลไม้ต้นทางได้
แหล่งข้อมูลในประเทศ:
- วารสารการแพทย์และสาธารณสุขในประเทศไทย: งานวิจัยเกี่ยวกับการบริโภคน้ำส้มสายชูและผลกระทบต่อสุขภาพ
- สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล: ข้อมูลเกี่ยวกับคุณค่าทางโภชนาการของน้ำมันและผักต่างๆ
แหล่งข้อมูลต่างประเทศ:
- University of Minnesota Extension: บทความให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับน้ำสลัดและ vinaigrette
“Salad Dressings – University of Minnesota Extension.” - Harvard T.H. Chan School of Public Health: ข้อมูลเกี่ยวกับการบริโภคน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพและงานวิจัยเกี่ยวกับโภชนาการ
- “The Truth About Vinegar.”
- “Ask the Expert: Are healthy fats a key to good health?”
- The World’s Healthiest Foods (WHFoods): แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับสารอาหารและประโยชน์ของอาหารต่างๆ
- “Olive Oil.”
- The History of Salad and Salad Dressing: ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของน้ำสลัด
- “The History of Salad and Salad Dressing.” From Food Timeline.



