ความเดิมจากตอนที่แล้ว แอดมินพาไปเที่ยว และแนะนำ วัดเก่าแก่โบราณในตัวเมืองเพชรบุรี ได้ความรู้ในเชิงประวัติศาสตร์ศิลปะกันไปบ้างแล้วนะคะ มาถึงในตอนนี้เป็นตอนพิเศษจะพาไปชมโครงการพระราชดำริแห่งแรกของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ อย่างที่ได้เกริ่นไว้ในตอนก่อนค่ะ เพราะไหนๆ ก็มาเที่ยวเมืองเพชรบุรี และเลือกพักผ่อนที่อำเภอหัวหินทั้งที ก็ต้องมาเที่ยวโครงการพระราชดำริแห่งแรกของในหลวงรัชกาลที่ ๙ กันค่ะ
โครงการแห่งนี้ นับว่าเป็นโครงการแห่งแรกของประเทศไทย ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ จัดสร้างโครงการนี้ขึ้น เนื่องด้วยเป็นพื้นที่แห้งแล้งและทุรกันดารมาก เมื่อ ๕๐ ปีก่อน แต่ถึงเส้นทางจะกันดาร ขรุขระจนชาวบ้านท้องที่เคยบอกว่า ไม่มีใครแม้แต่อยากจะไป เพราะไปลำบาก รถก็เข้ายาก แต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ ๙ ก็ทรงเสด็จพระราชดำเนินมา เพื่อเยี่ยมเยือน และสอบถามความเป็นอยู่ของพสกนิกร ทั้ง ๒ พระองค์ได้ทรงเห็นถึงความทุกข์ยากลำบาก การไม่มีที่ดินทำกิน และพื้นที่ทุรกันดาร ขาดแคลนทรัพยากร จึงมีพระราชดำริจัดสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำเขาเต่าขึ้น เพื่อให้พสกนิกรได้มีน้ำกินน้ำใช้ และเลี้ยงชีพได้ในระยะต่อไป โครงการนี้จึงนับได้ว่าเป็นโครงการพระราชดำริแห่งแรกของประเทศไทย และยังเป็นโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำจืดที่อยู่ใกล้ทะเลซึ่งเป็นแหล่งน้ำเค็มอีกด้วยค่ะ
โครงการอ่างเก็บน้ำเขาเต่า ตั้งอยู่ที่บ้านเขาเต่า ในเขตอำเภอหัวหิน อ่างเก็บน้ำเขาเต่าสามารถกักเก็บน้ำได้ถึง ๖๐๐,๐๐๐ ลบ.ม. ทำให้พสกนิกรซึ่งส่วนใหญ่คือ ชาวประมงที่อาศัยละแวกนี้ได้อยู่ดีกินดีมากขึ้น สามารถนำน้ำไปใช้ในการเพาะปลูกพืชผักสวนครัวไว้ทานเองและจำหน่ายได้ ที่สำคัญ คือ มีแหล่งน้ำสะอาดไว้ใช้สำหรับอุปโภคและบริโภค จนถึงปัจจุบันนี้พื้นที่บริเวณโดยรอบยังร่มรื่น เหมาะกับกิจกรรมสันทนาการของชาวบ้าน รวมถึงนักท่องเที่ยวที่สามารถแวะมาพักผ่อนหย่อนใจในยามเช้าตรู่ หรือ ยามเย็นก็ได้ค่ะ เพราะรอบอ่างเก็บน้ำจะมีทางเดินอย่างดี สามารถเดินออกกำลังกาย หรือวิ่งโดยรอบก็ได้ ที่สำคัญมีบรรยากาศดี ลมโกรกเย็นสบาย และมีความสงบมากๆ ใกล้ๆ กันมีร้านกาแฟ ร้านอาหารให้บริการเช่นกัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงออกทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ ในการจัดสร้างขึ้น ทรงเสด็จมาเยี่ยมเยือนพสกนิกร พร้อมกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ ๙ ที่บ้านเขาเต่าถึง ๑๔ ครั้ง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ต่อชาวบ้านเขาเต่า จึงเป็นที่มาของ ศาลากลางน้ำ ซึ่งชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ มีลักษณะคล้ายพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ ที่ถ้ำพระยานคร ตัวอาคารเป็นทรงจตุรมุข มีสัญลักษณ์ ภปร.โดดเด่น มีความสวยงามและโดดเด่นอยู่กลางอ่างเก็บน้ำ ยิ่งในเวลาพลบค่ำ ศาลายิ่งสวยงามเพราะมีไฟประดับโดยรอบค่ะ
นอกจากนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ ๙ ยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวบ้านเขาเต่า ด้วยการจัดหาผู้มีฝีมือในการทอผ้าจากโครงการศูนย์ศิลปาชีพส่วนพระองค์ มาสอนและให้ความรู้แก่ชาวบ้าน เพื่อจะได้มีอาชีพทอผ้า สร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยเฉพาะกับบรรดาแม่บ้าน หญิงสาวในชุมชน และจะได้มีอาชีพติดตัว มีรายได้เสริม ทำให้ครอบครัวมีฐานะดีขึ้นด้วยค่ะ ในส่วนของโครงการนี้ แอดมินได้เคยแนะนำไปในบทความก่อนหน้านี้สักระยะแล้ว คุณผู้อ่านสามารถอ่านเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับศูนย์หัตถกรรมบ้านเขาเต่า น้ำพระทัยจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ที่นี่ค่ะ www.bagindesign.com/ผ้าทอ–เขาเต่า และการไปเดินทางไปท่องเที่ยวและเรียนรู้ที่นี่ ก็อย่าลืมแวะอุดหนุนผ้าทอผืนงาม และผลิตภัณฑ์ทอมือสวยๆ จากฝีมือชาวบ้านกันนะคะ ที่ตั้งของศูนย์จะอยู่ทางขวามือก่อนถึงอ่างเก็บน้ำเขาเต่าค่ะ ^^
บริเวณใกล้ๆ โครงการอ่างเก็บน้ำเขาเต่า ยังเป็นที่ตั้งของศาสนสถานของไทยและจีนถึง ๒ แห่งค่ะ นั่นคือ วัดเขาเต่า และศาลเจ้าพ่อเขาเต่า
สำหรับ วัดเขาเต่า เป็นวัดที่มีความร่มรื่นมาก เงียบสงบและอยู่ริมทะเล ลักษณะของวัดที่นี่ส่วนที่อยู่ริมทะเลมีความพิเศษตรงที่สร้างเป็นรูปแบบถ้ำ ทำให้ดูกลมกลืนไปกับเขาเต่า ทางเดินสะอาด บางช่วงของพื้นทางเดินสะอาดเงางามเลยค่ะ ก่อนจะเดินเข้าไป ควรสังเกตป้ายสักหน่อยนะคะ เพราะจะมีบางช่วงที่ต้องถอดรองเท้าเดินค่ะ จะทำบุญ หรือถวายสังฆทาน ทางวัดมีบริการกิจกรรมทำบุญให้ค่ะ หรือจะเดินชมวัด โดยรอบก็สวยงาม มีเรี่ยวแรงมากหน่อย แนะนำให้เดินขึ้นไปถึงยอดเขา เพราะสามารถมองเห็นวิวทะเลบริเวณเขาเต่าได้อย่างเต็มตา ถ้าไปในช่วงนอกเทศกาล หรืออาจจะเป็นวันธรรมดา จะเหมาะมากกับการนั่งสมาธิ เพราะธรรมชาติโดยรอบนั้นช่างดีงามจริงๆ เสียงลมจากทะเล เสียงคลื่นเบาๆ และความเงียบสงบ อากาศบริสุทธิ์โดยรอบก็ชวนให้เราเข้าถึงทางธรรมได้แล้วค่ะ
ที่อยู่ติดกัน ก็ยังมี ศาลเจ้าพ่อเขาเต่า ซึ่งเป็นโรงเจด้วยค่ะ ในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจของทุกปีจะมีงานใหญ่มากๆ ทุกท่านสามารถไปร่วมงานบุญได้ค่ะ ภายในศาลเจ้าพ่อเขาเต่า ซึ่งมีความร่มรื่น สะอาดสะอ้าน ทำเลแม้จะตั้งอยู่บนยอดเขา แต่ก็ไม่สูงเกินไป เราสามารถเดินขึ้นบันไดได้อย่างสะดวกสบาย บันไดไม่ชันเกินไป ผู้สูงวัยทีเรี่ยวแรงยังมี สามารถเดินขึ้นได้ค่ะ ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานองค์พระขนาดใหญ่สูงประมาณ ๑๐ เมตร
พุทธลักษณะคล้ายแบบจีน แต่มีลักษณะไทยผสมด้วยค่ะ เท่าที่ทราบจากคุณป้าที่อยู่ประจำศาลเจ้า ท่านกรุณาเล่าให้ฟังว่า พื้นที่ตรงนี้แต่เดิมก็คือ ป่าริมทะเล ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้ประดิษฐานอยู่ก่อนแล้ว ต่อมามีชาวจีนท่านหนึ่งได้เข้ามาอาศัยและมีที่กินทำกิน พอมีกำลังทรัพย์และมีจิตกุศลอันแรงกล้าก็สร้างศาลขึ้นมาเพื่อครอบองค์พระไม่ให้โดนแดดโดนฝน และจัดสร้างเป็นโรงทานในเวลาต่อมา
คุณป้ายังบอกอีกด้วยว่า พระพุทธรูปมีความศักดิ์สิทธิ์นัก สิ่งที่มหัศจรรย์อย่างหนึ่งที่เห็นด้วยตาเนื้อของตนเองคือ หลังองค์พระขนาดใหญ่นี้ ไม่ได้มีแนวกั้นที่แข็งแรงอะไรเลย มีเพียงมุ้งลวดขนาดใหญ่สำหรับกันไม่ให้นกเข้ามาทำรัง และทำความสกปรกเลอะเทอะพื้นที่ในศาลเท่านั้น ทั้งๆที่ด้านหลัง คือ หินก้อนขนาดใหญ่ที่พร้อมจะหล่นลงมาเมื่อไหร่ก็ได้ หินก้อนดังกล่าวยังมีลักษณะเป็นหัวเต่าด้วยค่ะ เป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง ที่ธรรมชาติก็สร้างสรรค์ทุกอย่างให้สมดุลได้อย่างไม่น่าเชื่อ แนะนำว่าหากไปเที่ยวที่เขาเต่าแล้ว ควรแวะทั้งวัดถ้ำเขาเต่า และศาลเจ้าพ่อเขาเต่าด้วยค่ะ เทศกาลกินเจที่ใกล้จะถึง ๙–๑๗ ตุลาคม นี้ แอดมิน จึงถือโอกาสขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ร่วมเทศกาลถือศีลกินเจกันที่ศาลเจ้าพ่อเขาเต่า หัวหิน กันค่ะ
บริเวณปากทางเข้าวัดและศาลเจ้า จะมีร้านขายของฝาก ทั้งของแห้ง ของสด ขนมถ้วย ขนมกล้วย รสชาติดี แวะไปชิมกัน
ออกจากนี้บริเวณปากทางเข้าวัดและศาลเจ้า จะมี ร้านขายของฝาก ทั้งของแห้ง ของสด ขนมถ้วย ขนมกล้วย รสชาติดี แวะไปชิมกันได้ค่ะ แอบสะกิดเล็กน้อย หอยเสียบแช่น้ำปลาที่นี่รสชาติดีเยี่ยมเลยค่ะ ซื้อไปทานกับข้าวต้มร้อนๆ รับรองว่าต้องเติมข้าวต้มชามสอง เพราะหอยเสียบ สดมาก เนื้อหวาน รสชาติดีเยี่ยมค่ะ แนะนำเลยนะคะ ร้านจะอยุ่ข้างทางบนรถเข็น ก่อนถึงบันไดขึ้นศาลเจ้าพ่อเขาเต่านะคะ รวมไปถึงปลาอินทรี ปลากุเลาแดดเดียว ราคาไม่แพง เหมาะเป็นของฝากที่ดีแก่ผู้ใหญ่ค่ะ
ก่อนออกจากหัวหินในครั้งนี้ เราไม่ลืมที่จะแวะไปกราบบูรพกษัตริย์ มหาราชทั้ง ๗ พระองค์ที่อุทยานราชภักดิ์กันก่อน เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของทุกพระองค์ที่ได้สร้างประเทศไทย ทำให้แผ่นดินที่เราอยู่อาศัยในทุกวันนี้ มีความร่มเย็นเป็นสุข มีอาชีพ มีที่ดินทำกิน อยู่ดีมีสุขสบายเช่นทุกวันนี้ แนะนำว่าท่านที่จะไปเที่ยว กรุณาแต่งกายให้สุภาพนะคะ ให้เกียรติและเคารพสถานที่อย่างสูงสุด ก่อนเข้าไปพื้นที่อุทยานราชภักดิ์ อย่าลืมแวะชมนิทรรศการในเต๊นท์ด้านซ้ายมือก่อนนะคะ เพื่อที่เราและคนในครอบครัวจะได้ทราบว่า มหาราชแต่ละพระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพด้านใดบ้าง ทำความเข้าใจ แนะนำให้คนในครอบครัวได้เรียนรู้ ตระหนักถึงพระมหากรุณาธิคุณของทุกพระองค์ นิทรรศการจัดทำถึง ๓ ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน รวมถึงมีวีดีทัศน์ให้ชมด้วยค่ะ
จบทริปสนุกๆ ได้ความรู้ ได้ทำบุญ และมีความสุขกับครอบครัวกันในครั้งนี้ หากใครพาครอบครัวไปเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเที่ยวในโบราณสถานต่างๆ หากเราศึกษา ประวัติศาสตร์ของสถานที่ก่อนไปเยือน เมื่อเราไปถึง เราก็จะรู้สึกสนุก เพลิดเพลินไปกับแหล่งท่องเที่ยวเชิงโบราณสถาน รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ มากยิ่งขึ้น และทำให้การท่องเที่ยวของเราและคนในครอบครัวได้สาระ ความรู้ จากการไปเที่ยวนอกเหนือจากความประทับใจในแต่ละแห่งด้วยค่ะ และยิ่งเรามีผู้สูงอายุ อาจจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ คุณตา คุณยายไปด้วย ก็ยังช่วยให้ท่านได้ฝึกการใช้ความจำ จำสถานที่ เรื่องเล่า หรือจำรสชาติอร่อยๆ จากร้านที่เราคัดสรรให้ทุกคนในครอบครัวได้ลิ้มลองกันค่ะ ลองปรับวิธีการท่องเที่ยวของคุณดูนะคะ รับรองว่าเที่ยวแบบที่แอดมินแนะนำ จะเป็นการเที่ยวแบบยั่งยืนและมีความประทับใจทีลืมไม่ลงอย่างแน่นอน
บทความโดย : เอกชฎา ศรีสุวรรณ์
ข้อมูลอ้างอิง
โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ www.rid.go.th/royalproject
Facebook: โรงเจเขาเต่า
คุณปิยะฉัตร แกหลง : https://life.canon.co.th/lifestertalk-detail.html?id=107
TCEB: สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)